สัมภาษณ์คนเก่ง
รางวัลรองชนะเลิศ ระดับระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย การประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่น ครั้งที่ 45/2561
โดย นายกังวาน
สวัสดีครับ เพื่อสมาชิก Anone club และผู้สนใจภาษาญี่ปุ่นทุกท่าน เจอกันอีกแล้วนะ อย่าเพิ่งรีบเบื่อกันละ วันนี้เป็นอีกวันที่เราจะมาแนะนำให้เพื่อนรู้จักคนเก่งของเราอีกคน ผ่านไปแล้ว 3 คน คนนี้เป็นคนสุดท้ายแล้วนะ เป็นไงบ้างครับ ตามนายกังวานมาเลย จะพาไปแนะนำอีกหนึ่งสาวน้อยคนเก่งของเรา เป็นสาวชาวกรุง เราลองทำความรู้จักน้องคนเก่งของเราพร้อมกันเลยนะครับ สำหรับใครอยากทราบว่า ทำไมถึงอยากเป็นนักพากย์ นักพากย์สนุกและน่าสนใจอย่างไร ห้ามพลาดเลยนะครับ พร้อมข้อคิดดีๆ ที่น้องคนเก่งของเรามีให้ พร้อมแล้วตามพี่มาเลยครับ ไปกันเลย
นายกังวาน: おはよう! สวัสดีครับ นายกังวานนะครับ
น้องออมสิน : สวัสดีค่ะ はじめまして ชื่อนางสาวนุสบา แม่นแท้ ชื่อเล่นชื่อออมสินนะคะ ปัจจุบันอายุ 18 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา แผนการเรียนภาษาอังกฤษ-ภาษาญี่ปุ่นค่ะ
นายกังวาน: น้องออมสิน ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับว่า เริ่มต้นสนใจเรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างไร
น้องออมสิน : ขอเล่าย้อนความไปตอนเลือกแผนการเรียนนะคะ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะเข้าสายภาษาญี่ปุ่นค่ะ ออมสินถือว่าตัวเองเป็นเด็กเรียนดีคนนึงนะคะ ขออวดตัวเองหน่อย ตอนนั้นที่โรงเรียนมีโควตาเกรดเฉลี่ยให้เลือกแผนการเรียนค่ะ ซึ่งออมสินสามารถเข้าเรียนได้ทุกแผนการเรียนเพราะทำเกรดเฉลี่ยแต่ละวิชาได้สูงตามที่หลายๆ แผนการเรียนต้องการ ตอนแรกตั้งใจจะเข้าแผนการเรียนวิทย์-คณิต เพราะออมสินเป็นคนชอบอะไรที่มันคำนวณๆ อยู่แล้ว ตอนเด็กๆ ก็ฝันว่าอยากทำงานในนาซ่า ดูจะฝันไกลไปหน่อยสินะคะ นอกจากคำนวณออมสินเองก็ชอบภาษามากเหมือนกัน ทำให้ตัดสินใจยากมากๆ เลยลองคิดๆ ว่า ปัจจุบันภาษาอังกฤษใช้เป็นหลัก แล้วภาษาของเราก็ยังไม่แข็ง ยังไม่พร้อมที่จะใช้สื่อสารได้ด้วยซ้ำ เลยตัดสินใจเข้าเรียนสายภาษาเพื่อพัฒนาตัวเองดีกว่าค่ะ แต่พอเลือกว่าจะมาสายภาษา คราวนี้ก็เลือกยากอีกค่ะ มีแผนการเรียนให้เลือกแบบที่เป็นภาษาที่ 3 แล้วเราจะเรียนภาษาอะไรเป็นภาษาที่ 3 ดีล่ะ จีน ฝรั่งเศส หรือญี่ปุ่น อยากเรียนหมดเลย ตรงนี้เลยใช้ความชอบส่วนตัวในการเลือกล้วนๆ เลยค่ะ ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์ในอนาคตหรือเปล่า แต่ออมสินชอบ seiyu san จากญี่ปุ่นมากๆ ชอบอนิเมะ ชอบเกม ชอบไอดอล ชอบลายเส้นอาจารย์ที่วาด manga ดังๆ ในญี่ปุ่น ชอบอ่านหนังสือต่างๆ ที่แปลจากญี่ปุ่น วรรณกรรมดังๆ จากญี่ปุ่นที่แปลไทยก็ชอบมากๆ และฝันว่าสักวันจะได้เป็น seiyu san ที่ตัวเองชอบมากๆ ด้วย ในเมื่อชอบความเป็นญี่ปุ่นเยอะกว่าอีก 2 ภาษาที่เหลือ เลยตัดสินใจเข้าสายญี่ปุ่นแบบเสียดายอีก 2 ภาษาที่อยากลองเรียนเหมือนกันค่ะ และพอได้เริ่มเรียนภาษาอย่างจริงจัง ที่สัปดาห์หนึ่งต้องเรียนญี่ปุ่นหลัก 10 คาบ และเพิ่มเติมอีก 5 คาบ ยังจะมีวิชาหลักทั่วๆ ไปอย่างวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์อีก แรกๆ ตอนชั้นม.4 เป็นแบบเริ่มต้นเรียน ทำให้ดูเรียนง่ายมากๆ มั่นใจในตัวเองมากๆ ว่าเราจะต้องเรียนได้แน่ๆ เราต้องเก่งแน่ๆ แต่พอเรียนไปเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกว่า มันก็ง่ายแค่แรกๆ นั่นแหละ! รุ่นพี่หลายๆ คนที่เรียนบอกว่าคันจิยาก ออมสินเรียนภาษาจีนมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วเลยไม่คิดว่ายากเท่าไร อาจจะยากตรงเสียงอ่านที่มีหลายแบบ แต่ก็ค่อยๆ ฝึกและจำไป สิ่งที่ไม่ถนัดและยากที่สุดของออมสินคือแกรมม่าค่ะ ทุกภาษาที่เรียนเลย ไม่ถนัดแกรมม่าที่สุด พยายามจำยังไงก็ไม่เข้าใจ เลยต้องช็อตโน้ตย้ำให้ตัวเอง กว่าจะจำได้ก็ใช้เวลานานกว่าคนอื่นมาก เคยมีความคิดว่าเราคิดถูกแล้วเหรอ ความฝันที่ว่าอยากพูดญี่ปุ่นเก่งๆ นี่ได้แค่ฝันไปไหม แค่แกรมม่ายังไม่รอดเลย เลิกดีกว่าไหม แต่ก็ทำได้แค่คิดค่ะ ยังไงออมสินก็มีความฝันที่อยากจะทำให้สำเร็จอยู่ดี ไหนๆ ก็มาสายนี้แล้วก็อยากเก่งภาษาญี่ปุ่นนะ อยากไปญี่ปุ่นสักครั้ง อยากเจอไอดอลที่ติดตาม อยากเจอ seiyu san และอยากทำงานร่วมกับ seiyu san ที่ชื่นชอบ ถึงไม่ได้เป็น seiyu san ตามที่หวังก็อยากจะทำงานเกี่ยวกับการแปลหนังสือ ก็เลยต้องตั้งใจเรียนมากๆ ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นและภาษาอื่นๆ ที่เริ่มต้นเรียนทีหลังอย่างภาษาเกาหลีและฝรั่งเศส อยากพยายามให้สุดก่อนที่จะบอกว่าเลิก หลังจากนี้ก็ต้องเข้ามหาวิทยาลัย เรียนภาษาญี่ปุ่นต่อไปเพื่อต่อยอดความรู้ด้วย ต้องพยายามหลายเท่ามากๆ หวังว่าความพยายามนี้จะทำให้ไปถึงฝันอีกสักก้าวนะคะ
นายกังวาน: เป็นคำตอบที่เยี่ยมมากเลยครับ ขอบคุณมากครับ ไม่ต้องถามอีกหลายคำถามเลย ตอบมาให้หมดแล้ว 555 สรุปว่า เรียนภาษาญี่ปุ่นเพราะเกิดจากความชอบส่วนตัวล้วนๆ เลยนะครับ ก็เป็นเหมือนคนเก่งหลายๆ คนที่ต้องเริ่มจากความชอบก่อนเป็นหลัก หลังจากนั้นเมื่อชอบ ก็จะเริ่มหลงรัก และสนุกสนานกับการเรียนรู้ ในที่สุดความสำเร็จจากการทำในสิ่งที่เรารัก และเมื่อเรารักในสิ่งที่เราทำแล้ว แม้มันจะยากสักเท่าไหร่ เราก็จะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน ว่าแต่ใครแนะนำให้เข้าร่วมประกวดในครั้งนี้ครับ
น้องออมสิน : สำหรับการแข่งขันประกวดสุนทรพจน์ในปีนี้ เอาจริงๆคือ sensei ให้ลองส่งชื่อแบบงงๆ ค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะลงเองตั้งแต่แรก เกือบจะปฏิเสธแล้วด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าเวลาซ้อมจะทำให้เสียเวลาเรียนค่ะ แต่ว่าปีที่แล้วก็ได้ลงประกวดสุนทรพจน์ในการแข่งขันทักษะภาษาญี่ปุ่น และลงแข่งพูดเพื่ออาชีพในงานศิลปหัตถกรรมนั้นยังรู้สึกว่าตัวเองตั้งใจไม่เต็มที่ รางวัลที่ได้เลยได้ตามความสามารถที่ทำได้ในตอนนั้น sensei น่าจะเสียดายค่ะที่ออมสินคว้ารางวัลมาไม่ได้ ปีนี้เลยส่งไปแข่งงานนี้ซะเลย และออมสินก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันที่ตัวเองทำพลาดเอง ไหนๆ ปีนี้ก็ปีสุดท้าย พยายามทั้ง 2 อย่างไปพร้อมกันเลย ยังไงเดี๋ยวตรงนี้ก็ผ่านไป ปีนี้เลยตั้งใจซ้อมและพยายามเต็มที่กว่าเดิม และเพราะครั้งนี้ตั้งใจมากๆ เลยดีใจค่ะที่ความตั้งใจเราไม่เสียเปล่า แต่ผลการเรียนตกลงนิดเดียวแบบที่คาดไว้เลยค่ะ ยังคงอยู่ในมาตรฐานเด็กเรียนดีนะ (ฮา) อย่างน้อยความฝันที่ว่าอยากไปญี่ปุ่นก็สำเร็จแล้ว หลังจากนี้คงต้องพยายามอีกหลายอย่างกว่าจะได้เป็น seiyu san ตามที่ฝันไว้สินะคะ
นายกังวาน: อย่าได้พะวงกับสิ่งที่เป็นอดีตเลยครับ เรากลับไปแก้ไขไม่ได้ แม้เราจะรู้สึกเสียดายที่ ไม่ได้ทำให้เต็มที่ก็ตาม แต่ครั้งนี้ก็เป็นผลงานที่น่าชื่นชมนะครับ เมื่อเราเต็มที่กับมัน ผลของมันย่อมดีแน่นอน จริงไหมครับ ว่าแต่ถ้าเพื่อนต้องการจะติดต่อพูดคุยหรือขอคำแนะนำ จะมีช่องทางใดในการติดต่อไหมครับ
น้องออมสิน : ขอฝากช่องทางการติดต่อนะคะ สำหรับช่องทางการติดต่อ ออมสินไม่ได้เล่นไลน์ค่ะ แต่เล่น Facebook : Nutsabar Maenthae กับ twitter : @lovelyaomsin ถ้าใครสนใจปรึกษาวิชาเรียนหรือแนวทางการเรียนยังไงให้ได้เกรดเยอะๆ สามารถติดต่อได้ค่ะ ช่วงนี้อาจติดต่อไม่ได้ แต่หลังจากเข้ามหาลัยได้แล้วนี่คุยได้รัวๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ ありがとうございます。
นายกังวาน: เป็นอย่างไรบ้างครับ น้องคนเก่งของเรา ยังไงแล้วต้องขอขอบคุณน้องออมสินมากนะครับ ที่สละเวลาอันมีค่ามาร่วมให้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ หวังว่าจะเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ นำไปปรับใช้กับการเรียนรู้ไม่เฉพาะแต่ภาษาญี่ปุ่น แน่นอนครับ อ้อ ถ้าเป็นไปได้ ถ้ามีช่องทางติดต่อทางไลน์ ด้วยจะดีและสะดวกมากขึ้นนะครับ พี่จะได้เชิญเข้ากลุ่มคนเก่งของเรา ขอบคุณครับ
น้องออมสิน : ขอบคุณค่ะ よろしくね!じゃまた!
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
せいゆうになりたい
ヌッサバー・メンテ―
みなさん、日本(にほん)のアニメを見(み)たことがありますか。もちろんありますよね。日本(にほん)のアニメが大好(だいす)きなタイ人(じん)はほんとうにたくさんいます。アニメのストリーが好(す)きな人(ひと)、えが好(す)きな人(ひと)、ほかにも、アニメの中(なか)のキャラクターになりたくて、コスプレがしゅみの人(ひと)もいます。でもわたしが一番(いちばん)好(す)きなのはアニメのキャラクターのこえなんです。
はじめて好(す)きになったアニメのこえは「ブラザーズコンフリクト」というまんがの中(なか)にでてくる、あさひなつばきのこえでした。あさひなつばきは明(あか)るくて元気(げんき)なキャラクターで、そのこえを聞(き)くと、わたしのきもちも明(あか)るく、楽(たの)しくなりました。そして、このこえを出(だ)している人(ひと)はどんな人(ひと)だろうと、しりたくなって、しらべると、すずむらけんいちさんというせいゆうさんだとわかりました。それから、わたしはせいゆうというしごとにきょうみをもちました。
わたしが、せいゆうがすごいなとおもうところは、キャラクターのイメージによって、いろんなこえを出(だ)せるところです。わたしが好(す)きなゲームに「ゆめ100」というゲームがあります。その中(なか)にトマリという女(おんな)の人(ひと)のキャラクターがいて、わたしはゲームをしながら、せいゆうももちろん女(おんな)の人(ひと)だとおもっていました。でもそれが、むらせあゆむという男(おとこ)のせいゆうさんだとしったときはほんとうにびっくりしました。
毎日毎日(まいにちまいにち)アニメを見(み)て、せいゆうのこえを聞(き)いていると、わたしもだんだんせいゆうになりたいとおもうようになってきました。そして、ある日(ひ)こんなゆめを見(み)ました。ゆめの中(なか)で、わたしは東京(とうきょう)の町(まち)にいました。そして、あいたかったせいゆうさんにたくさんあうことができて、サインをもらったり、いっしょにしゃしんをとったりしました。大好(だいす)きなすずむらさんと、しゃしんをとっていると、すずむらさんが「せいゆうになりたいの?じゃあこんどぼくとアニメにいっしょにでない?」と言ってくれました。わたしはびっくりして、「え?ほんとうですか」とさけぶと、そこはバンコクのわたしのへやでした。
その話(はなし)はゆめでおわってしまいましたが「せいゆうになりたい」というしょうらいのゆめはまだおわっていません。今(いま)わたしは、そのゆめをほんとうにするために、毎日(まいにち)日本語(にほんご)の勉強(べんきょう)をがんばっています。あ、もちろんアニメも見(み)ていますけどね。
อยากเป็นนักพากย์
นุสบา แม่นแท้
ทุกคนคะ เคยดูการ์ตูนญี่ปุ่นกันหรือเปล่าคะ แน่นอนว่าต้องเคยสินะคะ มีคนไทยหลายๆ คนชอบการ์ตูนญี่ปุ่นกันมากๆ เลย บางคนอาจจะชอบในเนื้อเรื่อง หรือบางคนอาจจะชอบที่ภาพการ์ตูน นอกจากนี้บางคนก็อยากลองเป็นตัวละครนั้นๆ เลยมีงานอดิเรกเป็นการคอสเพลย์ แต่สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดเลยก็คือเสียงของตัวละครค่ะ
ครั้งแรกที่รู้สึกชอบนั้นมาจากการ์ตูนในเรื่อง Brothers Conflict ที่ชื่ออาซาฮินะ สึบากิ ค่ะ อาซาฮินะ สึบากิ เป็นตัวละครที่ร่าเริงมากๆ เมื่อได้ยินเสียงของตัวละครนี้ก็ทำให้ฉันรู้สึกร่าเริงและสนุกสนานตามไปด้วย และก็เกิดความสงสัย ใครกันนะที่เป็นคนพากย์เสียงตัวละครนี้ และก็ได้รู้ว่าคนๆ นั้นคือคุณสุซุมุระ เคนอิจิที่เป็นผู้พากย์เสียง และก็ได้เริ่มสนใจงานของนักพากย์ค่ะ
ฉันคิดว่านักพากย์นี่สุดยอดไปเลยนะ ทั้งอิมเมจของตัวละคร แล้วยังทำเสียงได้หลายแบบอีก ฉันมีเกมที่ชอบที่สุดคือเกม yume100 ในเกมนั้นมีตัวละครผู้หญิงที่ชื่อทอร์มารีอยู่ ในขณะที่ฉันเล่นเกมก็คิดว่านักพากย์ตัวละครนี้ต้องเป็นผู้หญิงแน่ๆ เลย แต่พอรู้ว่ามุราเสะ อายูมุที่เป็นผู้ชายเป็นคนพากย์ก็รู้สึกตกใจมากค่ะ
ทุกๆ วันที่ฉันดูอนิเมะและได้ฟังเสียงของนักพากย์ ฉันก็คิดว่าอยากจะเป็นนักพากย์จังเลยนะ หลังจากนั้นวันหนึ่งฉันก็ได้ฝัน ฉันฝันว่าได้อยู่ที่เมืองโตเกียว และก็ได้เจอนักพากย์ที่อยากเจอมากมาย ทั้งได้ขอลายเซ็นและได้ถ่ายภาพด้วยกัน ได้เจอสุซุมุระซังที่ชอบมากๆ ในขณะที่ขอถ่ายรูปอยู่สุซุมุระซังก็ได้พูดว่า “อยากเป็นนักพากย์เหรอ งั้นคราวหน้าลองมาพากย์อนิเมะด้วยกันไหม?” ฉันจึงตกใจ “เอ๋!! จริงเหรอคะ” และหลังจากนั้นฉันก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนั้นยังคงอยู่ในบ้านค่ะ
เพราะความฝันที่ว่า “อยากจะเป็นนักพากย์” ในอนาคตนี้ความฝันฉันยังไม่จบหรอกนะ ในตอนนี้เพื่อทำความฝันนั้นให้เป็นจริง ทุกๆ วันจึงตั้งใจเรียนภาษาญี่ปุ่นมากๆ อ๊ะ แน่นอนว่ายังดูอนิเมะด้วยนะ